วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557
เรื่องของการพันหม้อแปลงครั้งแรก
ด้านไฟเข้าคงจะ 220 VAC แน่นอน ส่วนไฟออกเท่าไรไม่รู้ เพราะลองป้อนไฟ 220 V เข้าไปวัดไฟออกเป็น 0 ใจร้อนไปนิดหนึ่งยังไม่ทันได้วัดค่าความต้านทานของขดไฟเข้าเลยว่าขาด ช็อตหรือเป็นอย่างไร ดันป้อนไฟ 220 VAC เข้าไป แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลองวัดค่าความต้านทานดูด้วยมิเตอร์เก่าๆอีกนั่นแหละ เข็มไม่กระดิกเลย ถึงบางอ้อละครับว่าขดไฟเข้าหรือขดไพรมารี่ขาดแน่นอน
ความคิดจะพันหม้อแปลงลูกนี้ใหม่ก็แว้บเข้ามาทันที ผมก็จัดการรื้อแกนเหล็กออก รื้อขดลวดออก ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงเหมือนกันกว่าที่จะรื้อเสร็จ
ตอนรื้อขดลวดเป็นปัญหานิดหน่อยเพราะไม่ได้นับรอบ จะนับได้อย่างไรมันมั่วไปหมด สรุปว่ารีบๆรื้อออกมาให้มันเสร็จเร็วๆเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นปัญหากับผมเองในตอนหลังเพราะต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมว่าเราจะพันกี่รอบดี ส่วนขนาดของเส้นลวดนั้นสามารถใช้ขนาดเท่าเดิมคือเบอร์เดิมนั่นแหละ
หลังจากคำนวนแบบบมั่วๆก็ได้จำนวนรอบด้านขดไพรมารี่ 330 รอบ หลังจากนั้นก็เอาตัวอย่างลวดไปหาซื้อตามร้านพันมอเตอร์พันไดนาโม แต่เขาไม่มีสำหรับขาย เพราะเขาซื้อมาใช้ไม่มากนัก มีอยู่ร้านหนึ่งใจดีบอกแหล่งซื้อให้เรียบร้อย
ผมรีบไปหาร้านที่เขาแนะนำทันที เป็นร้านเล็กๆมีเด็กนั่งพันลวดอยู่คนหนึ่ง กับเจ้าของร้านอายุมากแล้วเดินไปเดินมา ผมเดาเอาว่าคนนี้แหละน่าจะเป็นเจ้าของ ผมแนะนำตัวเสร็จก็บอกว่าผมอยากได้ลวดไปพันหม้อแปลงพร้อมกับหยิบตัวอย่างมาให้ดู เขาไปเดินหาอยู่นานแล้วออกมาบอกว่าถ้าจะเอาเบอร์นี้ที่ร้านไม่มีเพราะมันเป็นเบอร์ครึ่งๆอะไรนี่แหละ ผมบอกว่าถ้างั้นเอาเบอร์เต็มๆไปก็แล้วกัน ตกลงได้ลวดเบอร์ 19# มาครึ่งกิโล
กลับมาบ้านก็นั่งคิดว่าจะพันอย่างไรเครื่องพันเราก็ไม่มี สงสัยต้องสร้างเองเสียละมั้ง ลืมบอกไปว่าลวดที่ได้มานั้นมันไม่มีหลอดใส่ให้นะมันม้วนๆมา ความไม่รู้ผมรื้อไปรื้อมาลวดมันยุ่ง งานเข้าแล้วเรา
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554
สวนเพชรขาววันนี้
นานมากๆไม่ได้เข้ามาดูแลบล็อกของตัวเองเลย ก็ภาระต่างๆมันเยอะนี่เป็นข้ออ้างแก้ตัว
ความจริงแล้วกิจกรรมบางอย่างที่ได้ทำมันค่อนข้างอยู่ห่างจากหน้าคอมฯ จะมานั่งบ้างเป็นบางครั้งก็มีเรื่องอื่่นมาแย่งเสียอีกสุดท้ายบล็อกี่เปิดไว้ก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์เท่าที่ควร
วันนี้มาค้นหาความรู้เรื่องการพันหม้อแปลง ได้ความรู้จากบล็อกนั่นแหละ เลยนึกได้ว่าเราก็เคยมีเหมือนกัน ลองเข้ามาดูแล้วก็เขียนเสียหน่อย
วันนี้เริ่มพันหม้อแปลง พันไปได้ 7 ชั้น อาการเจ็บมือมาหา ต้องหยุดพักก่อนพอดีกับลวดเบอร์ 19 #ที่ซื้อมาครึ่งกิโล ทำท่าจะหมดตามสูตรที่คำนวณไว้ต้องพัน 330 รอบ แต่พันไปได้แค่ 210 รอบเท่านั้นเองลวดทำท่าจะหมด ดูคร่าวๆแล้วน่าจะพันได้อีกไม่น่าเกิน 30 รอบ
สรุปว่าต้องซื้อลวดเบอร์ 19 เพิ่มเติมอยู่ดี ส่วนที่พันแล้วก็แท็ปออกมาค้างไว้ก่อนได้ลวดมาแล้วค่อยพันต่อให้ครบตามที่คำนวณไว้
ุ
วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553
พิธียกเสาเอก
เริ่มต้น ขึ้นนะโม 3 จบ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
บทสวดชุมนุมเทวดา พร้อมคำแปล
สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตะวานุภาโว สะทา รักขะตูติ
ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ผู้มีเมตตา จงแผ่เมตตาจิต ด้วยคิดว่า
ขออานุภาพพระปริตร จงรักษาพระราชาผู้เป็นเจ้าแห่งนรชน
พร้อมด้วยราชสมบัติ พร้อมด้วยราชวงศ์ พร้อมด้วยเสนามาตย์
อย่ามีจิตฟุ้งซ่าน ตั้งใจสวดพระปริตร
สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ขอเชิญเหล่าเทพเจ้าซึ่งสถิตย์อยู่ในสวรรค์ชั้นกามภพก็ดี รูปภพก็ดี
และภุมมเทวดา ซึ่งสถิตย์อยู่ในวิมานหรือยอดเขาและหุบผา ในอากาศก็ดี
ในเกาะก็ดี ในแว่นแคว้นก็ดี ในบ้านก็ดี ในต้นพฤกษาและป่าชัฏก็ดี ในเรือนก็ดี ในที่ไร่นาก็ดี เทพยดาทั้งหลาย ซึ่งสถิตย์ตามภาคพื้นดิน รวมทั้งยักษ์ คนธรรพ์และพยานาคซึ่งสถิตย์อยู่ในน้ำ บนบก และที่อันไม่ราบเรียบ ก็ดี ซึ่งอยู่ในที่ใกล้เคียง จงมาประชุมพร้อมกันในที่นี้ คำใดเป็นของพระมุนีผู้ประเสริฐ ท่านสาธุชนทั้งหลาย จงสดับคำข้าพเจ้านั้น
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
จบบทสวดชุมนุมเทวดา
ที่มา : www.geocities.com/buddhamontra
วันทิตวา อาจาริยะปาทัง เมสักการิยะ สัมพินทะยายัง สัพพะโทสัง วินัสสันติ สิริเทพเอยยา วิโยทะยามัง มะเหสุรัง วิสุทธิเทเวสสะ สัพโพทิพพะยะ สัคเคมันตุ มาระสิทธิฯ
โอมพระภูมิ พระธรณีกรุงพาลี ตัมเปยยะ ปริวาราเอหิ สัตถายะ อาคัจฉันตุ ปริภุญชันตุ สะวาหะยะ ฯ
นะมามิสิระสานาโค ปะถะวียัง ปริพาระโต สุคะสัมปัตติ สัมพะทา ฯ
ปะริมาทิสัง ธะตะรัฏโฐ จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
อาคะเณยัสมิง คัมธัพโพ จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
ทักขิณัสมิง วิรุฬหะโก จะมหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
หรติสมิงเทวา จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
ปัจฉิมัสมิง วิระปักโข จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
พายัพสมิง นะคะราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
อุตะระสมิง ยักขา จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
อิสาณัสมิง ยักขา จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
สูปะพยัญชะนะ สัมปันนัง ปะริภุญชันตุ ฯ
โอมนะโม พุทธรัตนัง สะระณังคัจฉามิ
โอมนะโม ธัมมะรัตนัง สะระณังคัจฉามิ
โอมนะโม สังฆะรัตนัง สะระณังคัจฉามิ
อุปริสมิง ทิสาภาเค จัตาโรเทวา มหาเทวา จันโทจะ สุริโยจะ อินโทจะ พรหมาโนจะ เสยยะถี ทังทิโตจะ พุทธปัสสะนา ธัมมะปัสสะนา สังฆะปัสสะนา พุทธคารวะตา ธัมมะคารวะตา สังฆะคารวะตา เอหิสะมาคันตะวา อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ ทิโตจะ สุรักโขจะ เทวะเสฏโฐจะ เทวะปุญญะโกจะ จะรังวา ฐิตังวา ติฏฐังวา นิสินนังวา สยานังวา รัตติงวา ทิวังวา สัพพะทาตัง รักขันตุ มหาเทวาติ ฯ
เมื่ออ่านประกาศชุมนุมเทวดา บูชาฤกษ์เสร็จแล้วให้สวดคาถาสรรเสริญพระรัตนตรัยต่อไป
คาถาสรรเสริญพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
บทสวดอิติปิโสฯ
บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ
พุทธังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ.
ธัมมังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ.
บทสรรเสริญ พระสังฆคุณ
สังฆังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.
…………………………………………..
วันนี้ข้าพเจ้าขออาราธนา คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า อีกทั้งคุณบิดามารดา คุณอุปัชฌาย์ คุณครูบาอาจารย์ คุณพระฤาษีนารอท คุณพระฤาษีนาไลย คุณพระฤาษีตาวัว คุณพระฤาษีตาไฟ คุณพระฤาษีประไลยโกฏ คุณพระฤาษีกัสสปะ คุณพระฤาษีไกรภพ คุณพระฤาทัศมงคล ทั้งเพชรฉลูกัน และนักสิทธิวิทยา อีกทั้งพระธรณี นางพระคงคา พระเพลิง พระพาย พระอิศวรผู้เป็นเจ้าฟ้า เธอมาประสิทธิพระพรชัย ให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะขอ อัญเชิญเทพยดาทั้งหลายทั่วพื้นปฐพีดล พระฤาษีทั้ง108 ตน บันดาลดลด้วยสรรพสิทธิวิทยา พระครูพา พระครูเฒ่า ครูพักและครูอักษรสถาพรกรรมสิทธิ์ แก่ข้าพเจ้าในกาลบัดนี้เทอญ
อิติปิโสภะคะวา ข้าพเจ้าขออัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาอยู่เกล้าเหนือผม ขอเชิญพระพรหมมาอยู่เบื้องบ่าซ้าย ขอเชิญพระนารายณ์มาอยู่เบื้องบ่าขวา ขอเชิญพระนางคงคามาเป็นน้ำลาย ขอเชิญพระพายมาเป็นลมปาก ขอเชิญพญานาคมาเป็นสร้อยสังวาลย์ ขอเชิญพระกาฬมาเป็นดวงใจ ข้าพเจ้าจะกระทำสิ่งใด ภูตพรายใดอย่าได้มาเบียดเบียนบีฑา อย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขอเชิญครูแห่งหนหลัง พระฤาษีทั้ง 108 ตน เดชะคุณครูบาธิบายอันเลิศล้ำ คุณครูอยู่ในถ้ำ จงมาช่วยอวยพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า
พุทธังประสิทธิ์ มหาประสิทธิ์
ธัมมังประสิทธิ์ มหาประสิทธิ์
สังฆังประสิทธิ์ มหาประสิทธิ์
............................................
พระอรหันต์แปดทิศ
สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ นิสินโน เจวะ มัชฌิเม
โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ อาคะเณยเย จะ กัสสะโป
สารีปุตโต จะ ทักขิเณ หะระติเย อุปาลี จะ
ปัจฉิ เมปิ จะ อานันโท พายัพเพ จะ ควัมปะติ
โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร อิสาเณปิ จะ ราหุโล
อิเม โข มังคลาพุทธา สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา
วันทิตา เต จะ อัมเหหิ สักกาเรหิ จะ ปูชิตา
เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ โน
อิจ เจวะมัจจัน ตะนะมัสสะเนยยัง
นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง
ปุญญาภิสัน ทัง วิปุลัง อะลัตถัง
ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย ฯ
…………………………
5. คาถาบูชาฤกษ์
วันนี้วันดีตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ปีขาล ฤกษ์ปลูกเรือนวันพฤหัสบดีตามโบราณว่าไว้ว่า ปลูกเรือนวันพฤหัส สุขจำรัสเจริญศรี ลาภานานามี เป็นสุขขีนั้นหนักหนา
และการปลูกเรือนในเดือน 9 ตามตำราโบราณกล่าวไว้ว่า ปลูกเรือนเดือนเก้า ยศศักดิ์เจ้ามีมั่นคง สิ่งสินตนประสงค์ จำเริญวัฒนามา วันนี้จึงถือเป็นวันฤกษ์ดีในการปลูกเรือน
นโม นมัสสิตวา ข้าแต่พระศรีตรีพิธี พิสิษฐสุทธนวางค์ธิคุณอดุลยเทพ มหิทธิมเหศราธิบดี บรมปรเมศร์ สุรสรรพวสฤษฏิ์ดำรงศักดิ์ แลเอกอัครงชิรหัตถ์วัชรินทร์ ปิ่นสุทัศน์ทิพยเทวราช และอมรนิวาสน์ สัปตาพิธีฤกษ์ในภูมิโลกนี้ กาลบัดนี้ ข้าพระพุทธเจ้าจะกระทำพลีกรรม บูชายาคพิธี ตามคติประเพณีบรรวิสัยจารีตโบราณ ขอเดชานุภาพ อภินิหาร สรรพอำนาจธรรมสุจริต มหิทธิเทพทุกองค์จงปราสาทประสิทธิ กิจพิธีโดยอิสรานุภาพ ขอพรท้าวสหัสนัยเทวราชบรมราชอิสโกศาขอพร โลกปาลาธิปวรวิสิษฐ์ ขอพรเทพเรืองฤทธิ์สถิตทิพยสถานทั่วอมรขันธ์ สรรพอนันต์จักรวาฬภูมิภพไกวัล สรรพเกาะละเมาะฝั่งอรัญรุกขลัดดาวารี สิงขรชลถลา ดำเนินหนหาวสถานพิมานมาศอมรทิพย์เทวสำนัก ขอพรเทพสุรารักษ์อันศักดิ์สิทธิ์จงทรงเทวกรุณา เชิญช่วยอภิบาลบำรุงรักษา (ชื่อเจ้าของบ้านหรือเจ้าภาพ) ให้เกษมสุขสำราญหฤทัยทุกอริยาบททุกเมื่อเทอญ ฯ
ชัยฺยะธะโร หะริเทวัง ชัยฺยะ พฺรหฺมาธะตะรัฏฺฐัง สุริยะจันฺทะมา อาโป จะ เทวะปะฐะวี จะ เตโช ตะโย จาคะมา วารุณา เทวา โสโม จะ ยะสะสา สะหะเมตตะตา กรุณา กายิกา อารักฺขะเทวะ ยัสสะสิโน นะมัสฺสามะ สุวัตฺถิ โหติ ฯ
……………………
คาถาบูชาพระเกตุ
๏ เกตุเทว นโม ตฺยตฺถุ นาคพาหนยายิโน
โย โส เกตุมหาเทโว โสวณฺณาภรณภูสิโต
สห โส ปริวาเวน อิธาคจฺฉตุ มณฺฑเล
ทสฺสนีเย มนุญฺญมฺหิ เทวารเห สุสชฺชิเต
ทีปธูเป จ ปุปฺผานิ เทวาภิมานเน อิเม
มนุสํ ขชฺชโภชฺชญฺจ เทวสํ เวสนํ อิมํ
สาธุโน มงฺคลเทโว โส ปฏิคฺคณฺหาตุ สาธุกํ
ยํ ยญฺจ กุสลํ กมฺมํ สญฺจิตฺตํ โน ยถาพลํ
ตสฺมิมฺปิ ปุญฺญพีชมฺหิ ปตฺติโก อนุโมทตุ
อิจฺเจวํ มงฺคลเทโว โส ธมฺมามิเสหิ มานิโต
สมฺมา ตํ อนุปาเลตุ อาโรเ คฺยน สุเขน จ
อิมาย เทวปูชาย อมฺหํ ขมนฺตุ เทวตา
เทวาภิราธนตฺถาย พลิสกฺการวาหสา
(ชื่อเจ้าภาพเป็นภาษาบาลี) เมตฺตํ กโรนฺตุ เทวตา
เกตุเทวานุภาเวน สพฺพโสตฺถี ภวนุ เต
………………………………………..
คาถาอัญเชิญพระเกตุ
๏ เกตุเทว ข้าแต่พระเกตุเทพสุนทร ผิวบวรพรรณพิสุทธิ์ ทองชุมพูนุทเทียมทัด อาภรณ์พัสตร์ภูษาสุวรรณ์ งามแพรวพรรณผ่องศรี ทรงพาสุกรีอุรคราช ขออภิวาทวันทนพิเศษ แด่องค์พระเกตุอุดมศักดิ์ พร้อมเทพพรรคบริวาร เชิญมาสถิตในสถานมณฑล อันโสภณไพโรจน์ ชวลิตโชติชูหฤทัย ข้าตั้งใจบรรจงจัด จำรูญรัตน์พรรณพิเศษ เชิญอมรเทเวศเสด็จมา รับเครื่องวรามิสบำบวง สังเวยสรวงสักการ นานาวิธานธูปประทีป เรียบก้านกลีบมาลาร้อย ระย้าย้อยพุ่มพะนม น่าพึงชมตรูตา ภักษ์โภชชาของมนุษย์ อันบริสุทธิ์อุดมเลิศ ข้าบรรเจิดบรรจงถวาย อเนกหลายเลิศล้ำ เทพนั้นซ้ำเชิญบริรักษ์ พิทักษ์ ( ชื่อเจ้าภาพ) นั้น ให้เปลื้องปราศจากโรค นฤโศกเกษมสุข นฤทุกข์ปราศจากภัย กุศลใดยิ่งยง ( ชื่อเจ้าภาพ) นั้น บำเพ็ญ เป็นบุญภาคพูนผล จงเปรมกมลรับส่วนบุญ สุนทรธรรมพลีบรรดามีเหล่านั้น หฤทัยมั่นรับโมทนา เกตุเทวาธิบดี ขออัญชลีคำนับน้อม บูชาพร้อมธรรมามิส จงมีจิตกรุณา เชิญรักษา( ชื่อเจ้าภาพ) นั้น ให้เปลื้องปราศจากโรคไร้ เกษมสุขอย่าได้ เดือดร้อนอารมณ์ราญ ฯ
๏ เกตุเทพบริพารโสภิต อันไพจิตร์อดิเรก นานาเนกพ้นคณนา เสด็จมายังสถาน เชิญรับสักการเครื่องพลี ควรยินดีสองประการ เทพบริวารเหล่านั้น จิตจงมั่นปรีดี ด้วยพิธีเทพบูชา เชิญเทพยดาทั้งหมด จงเงือดงดโทษภัย สิ่งใดๆ อย่ามี ข้องราคีพานพะ แด่ ( ชื่อเจ้าภาพ) นั้น ซึ่งประสาทเครื่องพลี เพื่อปรีดีปราโมทย์ เสร็จประโยชน์หมู่อมร จงเพิ่มพรสุขสวัสดิ์ ชนมายุวัฒโนดม สุขาภิรมย์สร่างเศร้า แด่ ( ชื่อเจ้าภาพ) นั้น จงเจริญศรีสรรพประสิทธิ์ ด้วยเทพฤทธิ์เดชานุภาพ จงทุกคาบนิรันดร สมดุจพรพร่ำให้ ขอจงสะดวกได้ดังประสงค์โสตถิเทอญ ฯ
โหรบูชาจบแล้ว พระสงค์เจริญพระพุทธมนตร์บทของพระเกตุ คือขัดตำนาน ชยํ เทวมนฺสฺสานํ ฯลฯ สวด ชยปริตร
ถ้าสวด นวคหายุสมธรรมขัดตำนาน อาฆาตรหิโต พุทฺโธ ฯลฯ สวด อาฆาตวตฺถุ อาฆาตวินย ฯ
ที่มา http://www.titimapayakorn.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=432629&Ntype=3
..................
บทสังเวยพระภูมิ
สุนันตุโภนโต เทวะสังขาโย
บุพเพมะมะ ญาติโกโหติ
ตัมมะเหสาติ ภูมิมัสมิง
จะติสาพาเค สันติเทวา
มะหิทธิกา เตปิตุมเห
อนุรักษ์ขันตุ อะโรคะเยนะ
สุเขนะจะ พุทโธพุทธัง
นะกันตัง พระอะระหังพุทโธ
ธัมโมธัมมัง นะกันตัง
พระอะระหังพุทโธ สังโฆสังฆัง
นะกันตัง พระอะระหังพุทโธ
แม่โสภี แม่โพสพ แม่นพดารา
แม่ทองฟักดี แม่ศรีสุตสะดา
มาเถิดแม่มา ข้าจะไหว้พระภูมิ
เจ้าที่เจ้าเอ๋ย อยู่แล้วหรือยัง
สังขาตังโลกังกะวิทู ฉันจะขออาศัยด้วย
พระธรณีเจ้าแม่เอ๋ย อยู่แล้วหรือยัง
สังขาตังโลกังกะวิทู ขอทำสวนไร่นา
ค้าขายกินในแผ่นดินนี้ ขอให้ข้าเกิดมั่งเกิดมี
เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี พ่อค้าชาวนาและบ้านนอก
นะมะพะทะ คุ้มโคกระบือทั้งคอก
มะอะอุ คุ้มแอกคุ้มไถคุ้มไร่คุ้มนา
กันนก กันหนู กันปู กันปลา
กันทุกข์ กันโศก กันโรค พะโรคา
กันงู กันเหี้ย กันเพลี้ยลงนา
กันหนอนอัปรีย์ อย่าได้มีมา
สัพพะโทสา อาคัจฉัยยะ อาคัจฉัยหิฯ
ขออัญเชิญมารับเครื่องกระยาสังเวยทั้งหลายเหล่านี้ บูชาแต่งตั้งข้าวตอกดอกไม้ อาหารเครื่องสังเวย กินแล้วท่านเอ๋ย ขอให้เปิดทางให้ลูกหลานมีโชคลาภ สวัสดีมีชัย คุ้มโพยคุ้มภัยได้แปดประการ
สะสุปะพยัญชนะ สัมปันนัง
โภชนานัง สาลีนัง อุทะกังวะรัง
ปะพุนชันตุ ปริภุนชันติ พระโพสพ ฯ
จบพียงนี้
คัดจากหนังสือ ประมวลพิธีมงคลไทย โดย จันทร์ ไพจิตร ป.๙
เมื่อธูปหมดดอกลาเครื่องสังเวยกล่าวว่า
“เสสัง มังคะลัง ยาจามิ” ข้าพเจ้าขอมงคลที่เหลือ แล้วจึงยกของมา
จังหวะนี้ให้ช่างยกเสาเอก ขณะยกเสา ก็สวดบทชัยมงคลคาถา
บทสวดชัยมงคลคาถา
มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง
ปูเรตตะวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง
ชะยันโต โพธิยา มูเล สักกะยานัง นันทิวัฑฒะโน
เอวัง ตะหัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร
อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ
สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง
สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ
ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา
ปะทักขิณานิ กัตตะวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ
.............................................................
บทสวดส่งเทวดา มีชื่อเรียกว่า
" เทวะตาอุยโยชะนะคาถา " มีบทสวดดังนี้
เทวะตาอุยโยชะนะคาถา
• ทุกขัปปัตตา จะ นิพทุกขา ภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา
โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน,
• ขอสรรพสัตว์ทั้งหลาย ผู้มีความทุกข์ จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์ ผู้ที่มีภัย จงเป็นผู้ไม่มีภัย และผู้มีความโศก จงเป็นผู้ไม่มีความโศก,
• เอตตะวะตา จะ อัมเหหิ สัมภะตัง ปุญญะสัมปะทัง
สัพเพ เทวานุโมทันตุ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา,
• และขอเหล่าเทวดาทั้งปวง จงอนุโมทนาซึ่งความถึงพร้อมด้วยบุญ ที่เราทั้งหลายได้สร้างสั่งสมแล้ว ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ เพื่อความสำเร็จในสมบัติทั้งปวง,
• ทานัง ทะทันตุ สัทธายะ สีลัง รักขันตุ สัพพะทา
ภาวะนาภิระตา โหนตุ คัจฉันตุ เทวะตาคะตาฯ
• มนุษย์ทั้งหลาย จงให้ทานด้วยศรัทธา จงรักษาศีลตลอดกาลทุกเมื่อ จงเป็นผู้ยินดีในภาวนา ขอเทวดาทั้งหลายที่มาแล้วจงกลับไปเถิดฯ
• สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง
อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโสฯ
• พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ล้วนทรงพลกำลังทั้งหมด ข้าพเจ้าขอผูกเอากำลังแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย กำลังแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย และกำลังแห่งพระอรหันต์ทั้งหลาย ไว้เป็นเดชอำนาจเครื่องรักษาตน โดยประการทั้งปวงฯ
000000000000000000000000000000000000000000000000000000000
พาหุงทั้ง ๘ บท
๏ พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ค๎รีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ๚๛
๏ มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตตีง โฆรัมปะนาฬะวะกะมัก ขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ๚๛
๏ นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนี วะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ๚๛
๏ อุกขิตตะขัคคะมะติหัต ถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถัง คุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ๚๛
๏ กัตวานะกัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ๚๛
๏ สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ๚๛
๏ นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะเถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ๚๛
๏ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัมมัง วิสุทธิชุติมิทธิ พะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ๚
๏ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา
โย วาจะโน ทินะทิเนสะระเต มะตันที
หิต วานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะนะโร สะปัญโญ ๚
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
คาถาให้พรเจ้าภาพ, เจ้าการ
สัพฺพะทุกขัง วินัสฺสะติ สัพฺพะภะยัง วินัสฺสติ สัพฺพะโรคา วินัสฺสันฺตุ พุทธะเตเชนะ ธัมฺมะเตเชนะ สังฺฆะเตเชนะ อินฺทะเตเชนะ พฺรหฺมมะเตเชนะ เทวะเตเชนะ ฯ
ทิวา ตะปะติ อามิจจะโจ ระตะติมาภาติ จันฺทิมา สันฺนัทฺโธขัตฺติโย ตะปะติ ฌายี ตะปะติ พฺราหฺมะโณ อัถ สัพฺพะมะโหรัตฺตัง พุทโธ ตะปะติ เตชะสา เอเตนะ สัจฺจะวัชฺเชนะ สุวัตฺถิ โหตุ สัพฺพะทา ฯ
สิทฺธิกิจฺจํ กิจอันใดควรชอบ ได้ประกอบก่อสร้าง อย่ารู้ร้างลุได้ดังประสงค์ เทอญนา
สิทฺธิกมฺมํ การใดดังใจผดุง บำรุงจงอย่าช้า อย่าเลิกอย่าโรยรา สิทธิได้พลันพลัน เทอญนา
สิทฺธิ ตถาคโต สัพพัญญูตรัสรู้จบ มารสยบหลีกแล้ว ขออุปัทวันตรายแคล้ว คลาดพ้นพูนเกษม แลนา
สิทฺธิเตโช ชโย นิจํ เดชเรื้องปรากฏ ผู้ทรงยศปองร้าย จงครรไลแตกพ่าย ผ่องพ้นภัยพาล เทอญนา
สิทฺธิลาโภ นิรนฺตรํ ลาภสิ่งอันใด จงหลั่งไหลหล่อล้น ดังหนึ่งท่อธารท้น อย่ารู้สิ้นสูญ เลยนา
สัพฺพะสิทฺธิ ภวนฺตุ เต พรสรรพจงประสิทธิ์ แด่ (เอ่ยนามเจ้าภาพ) อย่าช้า ให้เสร็จสมดังข้า พร้อมพร่ำให้ฉะนี้เทอญนา ฯ
เป็นอันเสร็จบูชาสรวงเทวดา พระภูมิเจ้าที่เพียงเท่านี้.
คำแผ่เมตตาให้แก่ผู้อื่น
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียน ซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิดอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยสิ้นเถิด
วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
บทพระคาถาอัญเชิญเทวดากลับ
เทวตาอุยโยชะนะคาถา
ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา ภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา


ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ถึงแล้วซึ่งทุกข์ จงเป็นผู่ไม่มีทุกข์และที่ถึงแล้วซึ่งภัย จงเป็นผู้ไม่มีภัย


โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน


และที่ถึงแล้วซึ่งโศก จงเป็นผู้ไม่มีโศกด้วยกันทั้งหมดทุกตัวตนเถิด


เอตตาวะตา จะ อัมเหหิ สัมภะตัง ปุญญะสัมปะทัง


สัพเพเทวานุโมทันตุ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา


อนึ่ง ขอเทวดาทั้งหลาย จงอนุโมทนาซึ่งสมบัติ อันเราทั้งหลายก่อสร้างแล้ว ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ เพื่ออันสำเร็จสมบัติทั้งปวง


ทานัง ทะทันตุ สัทธายะ สีลัง รักขันตุ สัพพะทา


มนุษย์ทั้งหลาย จงให้ทานด้วยศรัทธา จงรักษาศีลในกาลทั้งปวง


ภาวะนาภิระตา โหนตุ คัจฉันตุ เทวะตาคะตา


จงเป็นผู้ยินดีแล้วในภาวนา เทพดาทั้งหลายที่มาแล้ว เชิญ กลับไปเถิด


สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกนัญจะ ยังพะลัง


พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ล้วนทรงพระกำลังทั้งหมด กำลังใดแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย


อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส


และแห่งพระอรหันต์ทั้งหลายมีอยู่ ข้าพเจ้าขอผูกความรักษา ด้วยเดชแห่งกำลังนั้นโดยประการทั้งปวง




จบแล้วก็แผ่เมตตา ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

พิธียกเสาเอก 7
คาถาประกาศชุมนุมเทวดา
** สักเคกาเม จะรูเป คิริสิริขะระตะเฎ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเปรัฎเฐ จะคาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิเขตเต ภุมมาจายันตุเทวา ชะละถะลวิสะเม ยักขะคันทัพพะนาคา ติฎฐันตา สันติเกยัง นุนิวะระจะนัง สาธะโว เมสุณันตุ ธัมมะสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมะสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมะสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตาฯ
** วันทิตวา อาจาริยะปาทัง เม สัการิยะ สัมพินทะยายัง สัพพะโทสัง วินัสสันติ สิริเทพเอยยา วิโย ทะยามัง มะเหสุรัง วิสุทธิเทเวสสะ สัพโพทิพยะสังเค มันตุ มาระสิทธิฯ
** โอมพระภูมิพระธรณีกรุงพาลี ตัมเปยยะปะริวารา เอหิสัตถายะ อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สวาหายะฯ
** นะมามิสิระสานาโค ปะถะวียัง ปะริพาระโต สุคะสัมปัตติสัมพะทาฯ
** ปะริมาทิสัง ธะตะรัฎโฐ จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ
** อาคะเณยัสมิง คัมธัพโพ จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ
** ทักขิณัสมิง วิรุฬหะโก จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ
** หรติสมิงเทวา จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ
** ปัจฉิมัสมิง วิรูปักโข จะ มหาราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ
** พายัพสมิง นะคะราชา ทิสาภาเค เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ
** อุตะระสมิง กุเวโร จะ มหาราชา เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ
** อิสาณัสมิง ยักขา จะ มหาราชา เตปิตุมเห อะนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ
** สูปะพยัญสชนะสัมปันนัง ปะริภุญชันตุฯ
** โอมนะโมพุทธรัตนัง สะระณังคัจฉามิ โอมนะโมธัมมะรัตนัง สะระณังคัจฉามิ โอมนะโมสังฆะรัตนัง สะระณังคัจฉามิ อุปริสมิง ทิสาภาเค จัตตาโรเทวา มหาเทวา จันโท จะ สุริโย จะ อินโท จะ พรหมาโน จะ เสยยะถี ทังทิ โต จะ พุทธทปัสสะนา ธัมมะปัสสะนา สังฆะปัสสะนา พุทธคาระวะตา ธัมมะคาระวะตา สังฆะคาระวะตา เอหิสะมาคันตวา อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ ทิโต จะ สุรักโข จะ เทวะเสฎโฐ จะ เทวะปุญญะโก จะ จรังวา ฐิตังวา ติฎฐังวา นิสินนังวา สยานังวา รัตติงวา ทิวังวา สัพหะทาตัง รักขักตุ มหาเทวาติฯ
เมื่ออ่านประกาศชุมนุมเทวดาบูชาฤกษ์เสร็จแล้ว ต่อจากนั้น ให้สวดคาถาสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยต่อไป
คาถาสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
นโมตัสสะ ภาคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3 จบ)
- พุทธังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระนังคัจฉามิฯ อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมา สัมพุทโธ วิชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตะโร ปุริสะทัม มะสาระถิ สัตถาเทวะ มนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ
- ธัมมังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิฯ สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติฯ
- สังฆังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิฯ สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคะนิ อัฏฐะปุริสะปุคลา เอสะภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชลีกรณีโย อะนุตตรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ
- พุทธปูชา มหาเตชะวันโต ธัมโมปูชา มหาเตชะวันโต สังฆะปูชา มหาโภคะวะโห ติโลกะเสฏฐัง อะภิปูชยามิฯ
พิธียกเสาเอก 6
พิธียกเสาเอก
[แก้ไข] ของใช้ในพิธี
- จัดโต๊ะหมู่บูชา ๑ ชุด พร้อมเครื่องสักการะ (ถ้าประสงค์)
- จตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระ ๑ ชุด (กรณีนิมนต์พระมาประพรมน้ำมนต์ที่หลุม และเจริญชัยมงคลคาถา)
- เครื่องบูชาฤกษ์หรือสังเวยเทวดา (จัดย่อส่วนก็ได้ ดูพิธีวางศิลาฤกษ์)
- ใบทอง นาก เงิน อย่างละ ๓ ใบ
- เหรียญทอง เงิน อย่างละ ๙ เหรียญ
- ทรายเสก ๑ ขัน
- น้ำมนต์ ๑ ขัน (พร้อมกำหญ้าคา ๑ กำ)
- ด้ายสายสิญจน์ ๑ ม้วนเล็ก
- ทองคำเปลว ๓ แผ่น
- ผ้าแพรสีแดง ห่มเสา หรือผ้าขาวม้า ๑ ผืน v - หน่อกล้วย อ้อย อย่างละ ๑ หน่อ
- ไม้มงคล ๙ ชนิด (ถ้าประสงค์)
- แผ่นทอง นาก เงิน อย่างละ ๑ แผ่น
- ข้าวตอกดอกไม้ ๑ ขัน
[แก้ไข] ลำดับพิธี
- วางสายสิญจน์ เริ่มจากโต๊ะบูชาไปโต๊ะสังเวยขวาบริเวณสถานที่ก่อสร้างเข้าสู่เสาเอก (ก่อนเวลาฤกษ์พอสมควร) เจ้าภาพ - จุดเทียนธูปที่โต๊ะหมู่บูชา อธิษฐานเพื่อเกิดสิริมงคล กราบพระ
- จุดเทียนธูปที่โต๊ะสังเวย บูชาเทวดาให้คุ้มครอง
- พิธีกร - กล่าวสังเวยเทวดา
- เจ้าภาพ - ดอกไม้มงคล ๙ ชนิด (ถ้ามี)
- วางแผ่นทอง นาก เงินในหลุมเสาเอก (ถ้ามี)
- นำใบทอง นาก เงิน และเหรียญทอง เงิน ลงก้นหลุมแล้วนิมนต์พระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์ โปรยทรายเสกที่ หลุมเสา
- เจิมและปิดทองเสาเอก
- ผูกหน่อกล้วย อ้อย และผ้าสีแดงหรือผ้าขาวม้าที่เสาเอก
- ถือด้ายสายสิญจน์ พร้อมทั้งญาติมิตรผู้ร่วมพิธี
- ช่าง - ช่วยกันยกเสาเอก จนตั้งเรียบร้อย (ขณะยกเสานั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา) (ถ้ามี)
- เจ้าภาพ - โปรยข้าวตอกดอกไม้ลงหลุมเสาเอก พร้อมทั้งญาติมิตรผู้ร่วมพิธี เสร็จพิธี
หมายเหตุ - ถ้ายกเสาเอกในเดือนอ้าย ยี่ สาม เสาเอก อยู่ทิศอีสาน
- ถ้ายกเสาเอกในเดือน ๔ - ๕ - ๖ เสาเอก อยู่ทิศอาคเนย์
- ถ้ายกเสาเอกในเดือน ๗ - ๘ - ๙ เสาเอก อยู่ทิศหรดี
- ถ้ายกเสาเอกในเดือน ๑๐ - ๑๑ - ๑๒ เสาเอก อยู่ทิศพายัพ * เมื่อธูปที่โต๊ะสังเวยไหม้หมดดอก ให้ลาเครื่องสังเวยได้ว่า "เสสัง มังคะลัง ยาจามิ"
- หน่อกล้วย อ้อย เมื่อช่างเอาลงจากเสาแล้ว ให้นำไปปลูกไว้ในที่ต้องการ เพื่อเสี่ยงทายว่าจะงอกงามเพียงใด
- ถ้าจัดโต๊ะสังเวยไม่ได้ จะจัดเป็นสำรับบูชาพระภูมิเจ้าที่ธรรมดาก็ได้ และสิ่งประกอบอื่น ๆ ก็เลือกเอาเท่าที่จำเป็นและหาได้ง่าย
[แก้ไข] ปีที่ปลูกเรือนเสริมสิริมงคล
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีชวด
ยกเสาเอก จงเอาไม้ราชพฤกษ์ปักเสามุมแรก ก่อนยกเสาเอกเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย และโปรยดอกไม้ 3 สี สีที่เป็นสิริมงคล ดอกกุหลาบ ดอกรัก ดอกพุทธ และบวงสรวงด้วย กล้วยที่เป็นมิ่งขวัญปีเกิด จะทำให้ อยู่เย็นเป็นสุข ทำมาหากินเจริญขึ้นนักแล
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีฉลู
ยกเสาเอกจงเอากล้วยและผ้าขาว พันเสาเอก เอากิ่งมะตูม 3 กิ่ง ปักที่เสาเอก และบวงสรวงด้วยลูกตาล ขนมฝอยทอง จะทำให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้าบ้านและมีความสุขความเจริญ
[แก้ไข] ปลุกเรือนปีขาล
ยกเสาเอกจงเอาข้าวสุก 3 กระทง และน้ำ 3 ขัน ขันเงิน ขันทอง ขันนาก รดที่ต้นเสาก่อนแล้วโปรย ดอกไม้ 3 ชนิด ดอกดาวเรือง ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย เพื่อเป็นเคล็ดให้ร่ำรวย อยู่เย็นเป็นสุข
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีเถาะ
ยกเสาเอก จงเอาใบตะเคียน ใบเฉียง ใบพร้าหอม ต้นกล้วย 1 ต้นห่อปลายเสา แล้วบวงสรวงด้วย หมูย่าง ปลายำ จะทำให้รุ่งเรืองนักแล
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีมะโรง
ยกเสาเอก จงเอาใบมะกรูด และกำยานพันปลายเสาก่อนแล้วจึงยกเสาเอก แล้วโปรยดอกไม้มงคล 7 ชนิด ดอกรัก ให้รักใคร่กัน ดอกดาวเรือง ให้เจริญรุ่งเรือง ดอกบัว ให้มีคนนับถือ ดอกกุหลาบ ให้สุขสด ชื่น ดอกบานไม่รู้โรย ให้มั่งมีอย่างไม่รู้โรย ดอกพุทธ ให้พระคุ้มครอง ดอกมะลิิ ให้อยู่เย็นเป็นสุข อธิษฐาน จะทำให้ร่ำรวย มั่งมี เป็นสุขตลอดไป
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีมะเส็ง
ยกเสาเอก จงเอาใบสิงห์ 2 กิ่ง ผูกที่ปลายเสา และข้าว 3 กระทง ธูปเทียนจุดบูชา ทั้งบูชาดอกกุหลาบ พวงมาลัย มะลิสด ดอกรัก น้ำเย็น 6 ขัน แล้วพูดว่า มั่ง มี ศรี สุข ใช่ จึงยกเสาเอก จะทำให้รุ่งเรืองขึ้น
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีมะเมีย
ยกเสาเอก จงเอาใบขี้เหล็ก กวาดตั้งแต่ปลายเสาลงมาถึงโคนเสา 3 ครั้งแล้วเอาน้ำรดปลายเสา ให้อด ใจรอจนถึงเวลาไก่ขัน และบวงสรวง กล้วย มะพร้าว ส้ม จงลงเสาเอก จึงจะร่มเย็นเป็นสุข
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีมะแม
ยกเสาเอก จงเอาใบเงิน 3 ใบ หมากผู้ 3 ใบ หมากเมีย 3 ใบ แล้วเอาใบทั้งกล้วยอ้อยใส่ลงไปในหลุม ก่อน แล้วจึงยกเสาเอก แล้วบวงสรวง กล้วย อ้อย มะพร้าว ขอพรจะเสริมสิริมงคลให้มีโชคลาภตลอดไป
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีวอก
ยกเสาเอก จงเอาเทียน 3 เล่ม แปะทองผูกข้างเสาด้านหัวนอนก่อน และนำใบเงิน ใบทอง ใบนาก ลงฐานหลุมแล้วจึงยกเสาเอก จะทำให้มั่งมี ศรีสุข ตลอดกาล
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีระกา
ยกเสาเอก จงเอาข้าวตอกกับใบบัวบก มาใส่รองรับเอาไว้ในหลุมเสาเอก และเสารอง หรือใส่ให้ครบ 4 ทิศ จะเสริมมงคลให้อยู้ร่มเย็นเป้นสุข และบวงสรวงด้วย ข้าว แกง แอปเปิล ดอกบัวหลวง ขอพร จะทำให้มั่งมีศรีสุข
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีจอ
ยกเสาเอก จงเอาข้าวตอกกับใบบัวบก มาใส่รองรับเอาไว้ในหลุมเสาเอก หรือใส่ให้ครบ 4 ทิศ และบูชา ด้วยดอกบัวเหลวง จะทำให้มีคนอุปถัมภ์ดีนักแล
[แก้ไข] ปลูกเรือนปีกุน
ยกเสาเอก จงเอาดอกชบา 1 ดอก และดอกบัวอีก 1 ดอก ใส่หลุมเสาเอก แล้วลงเสาเอก ฤกษ์ 9.09น. จะทำให้มีความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
[แก้ไข] หากคุณจะสร้างบ้านเรือน และยกเสาเอก ควรกระทำให้ถูกตามตำราดังนี้
ยกเสาเรือนเดือน ๔, ๕, ๖ ให้ยกเสาเอกทางทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จะเกิดโชคลาภ เป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย
ยกเสาเรือนเดือน ๗, ๘, ๙ ให้ยกเสาเอกทางทิสหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) ผู้อยู่อาศัยในเรือน ปลอยภัยไร้โรคภัย มีโชคลาภดีนักแล
ยกเสาเรือนเดือน ๑๐, ๑๑, ๑๒ ให้ยกเสาเอกทางทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จะเกิดสิริมงคล พ้นเคราะห์ภัย ไม่อับจน
ยกเสาเรือนเดือน ๑, ๒, ๓ ให้ยกเสาเอกทางทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จะอยู่ดีกินดี เป็นมหาสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยเรือนนั้น
หมายเหตุ:
โบราณาจารย์ทั้งหลายท่านว่าไม่ควรปลูกเรือน สร้างบ้านที่อยู่อาศัย ในเดือน ๑, ๓, ๕, ๗, ๘, ๑๐, ๑๑ เดือนที่ควรปลูกเรือนคือเดือน ๒, ๔, ๖, ๙, ๑๒
หลังจากทำบุญทุกครั้ง ควรแผ่เมตตาหรือกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญให้เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก